Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

ม.วลัยลักษณ์ ลงนามก่อสร้างศูนย์แพทย์ฯ แล้วเสร็จปี ’62

อัพเดท : 29/07/2558

6861

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และบริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ พร้อมระบบสาธารณูปการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มูลค่า 2,128 ล้านบาท แล้วเสร็จ ปี พ.ศ. 2562

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 ดร.สุเมธ แย้มนุ่น รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และนายพิสันต์ จินตนาภักดี กรรมการบริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์พร้อมระบบสาธารณูปการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มูลค่า 2,128 ล้านบาท โดยได้รับเกียรติจาก นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นประธานสักขีพยานพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาครัฐภาคเอกชน กรรมการสภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ คณะผู้บริหาร บุคลากร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผู้แทนจากบริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน)และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมโมคลาน อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

 

ดร.สุเมธ แย้มนุ่น กล่าวว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้ทำการประกวดราคาด้วยวิธีแบบอิเล็กทรอนิกส์ศูนย์การแพทย์ฯพร้อมระบบสาธารณูปการไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยบริษัททีผ่านคุณสมบัติและเสนอราคาต่ำสุดชนะการประกวดราคา คือ บริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2,128 ล้านบาทถ้วน หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขออนุมัติขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันกรณีระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเกินกว่าระยะเวลาที่ ครม.อนุมัติไว้ เนื่องจากมีการบอกเลิกสัญญาจ้างเดิม และดำเนินการประกวดราคาจ้างใหม่ จากปีงบประมาณ 2554-2560 เป็นปีงบประมาณ 2554-2562 ซึ่งได้รับอนุมัติจากพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้วเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ส่งผลให้ ม.วลัยลักษณ์ สามารถลงนามสัญญาก่อสร้างได้ใหม่ทันที


ดร.สุเมธ แย้มนุ่น กล่าวถึงโครงการศูนย์การแพทย์ฯ มวล.ว่า โครงการดังกล่าวสร้างขึ้นบนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ ประกอบด้วย กลุ่มอาคารศูนย์การแพทย์ สำหรับการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์และนักศึกษาในสาขาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพฝึกอบรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ การค้นคว้าวิจัยทางคลินิกและวิจัยประยุกต์ให้บริการผู้ป่วยในระดับตติยภูมิ (Tertiary Care) ในเขตภาคใต้ตอนบนและประชาชนทั่วไปในระบบ People-Centered Health Care ให้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ผู้ป่วยหนัก (ICU) และฉุกเฉินมีจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 400 เตียง และยังสามารถขยายตัวเพื่อรองรับการให้บริการถึง 750 เตียง

 

นอกจากนี้ ยังให้บริการตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมด้วยห้องปฏิบัติการและอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย อาทิ การตรวจชิ้นเนื้อ ศัลยกรรมการตรวจเซลล์วิทยา เฝ้าระวังการอุบัติของโรคภัยต่างๆ ทั้งโรคอุบัติซ้ำและอุบัติใหม่ นำไปสู่การค้นคว้าวิจัย การเฝ้าติดตาม พร้อมการป้องกันรักษา กลุ่มอาคารวิทยาการสุขภาพ ประกอบด้วยศูนย์วิจัยวิทยาการสุขภาพ ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู คลินิกทันตกรรม มีอาคารที่พักแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งนี้สัญญาที่ลงนามในครั้งนี้ มีระยะดำเนินการภายใน1,400 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2562

 

ภาพและข่าว โดยส่วนประชาสัมพันธ์