Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

ม.วลัยลักษณ์ ปัดฝุ่นเตาเผาขยะติดเชื้อ คาดต้นปี ’59 เดินเครื่องได้

01/12/2558

5176

 


มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พัฒนาและปรับปรุงเตาเผาขยะติดเชื้อโดยนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย รองรับการเผาได้ 100 กิโลกรัม/ชั่วโมง ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ คาดต้นปี ’59 เดินเครื่องได้เต็ม 100 เปอร์เซนต์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย กัลยาณปพน รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.วลัยลักษณ์ เปิดเผยเกี่ยวกับเตาเผาขยะว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์กำลังดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาเตาเผาขยะติดเชื้อเพื่อรองรับขยะติดเชื้อที่เกิดขึ้นจากการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการพัฒนาระบบเตาเผาขยะในครั้งนี้ นอกจากการซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ใหม่แล้ว ยังได้พัฒนากรรมวิธีเผาขยะให้มีความคุ้มค่าด้านพลังงานและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม มีการกำจัดขยะอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ถูกหลักกฎหมายทางด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพเตาเผา ลดความชื้นในขยะเพื่อให้การจัดการด้านการเผาขยะติดเชื้อมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ศูนย์เครื่องมือฯ ได้ตั้งงบประมาณสำหรับการปรับปรุงซ่อมแซมเตาเผาดังกล่าวไว้ประมาณ 5 แสนบาท ดำเนินการซ่อมแซมโดยนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเองทั้งหมด โดยเตาเผาขยะติดเชื้อดังกล่าวจะสามารถเริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการได้ในต้นปี 2559 นี้ โดยสามารถรองรับการเผาขยะติดเชื้อได้ในปริมาณ 100 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ด้วยระบบการเผาแบบแก๊สและความดัน แบ่งเป็น 2 ห้องเผา ประกอบด้วย ห้องเผาขยะและห้องเผาควัน โดยขั้นตอนการเผาเมื่อห้องเผาทำการเผาขยะแล้วหลังจากมีควันเกิดขึ้น ก็จะส่งต่อควันเหล่านั้นไปยังห้องเผาควันอีกครั้ง เพื่อให้ห้องนี้เผาละเอียดและมีการดักจับเขม่า ควันและไอระเหยต่างๆ ก่อนปล่อยออกสู่สภาพแวดล้อม

“ปัจจุบันการเผาขยะติดเชื้อในภาคใต้และหน่วยงานด้านสาธารณสุขยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากเตาเผาขยะจะมีอยูในหน่วยงานของทางราชการเท่านั้น ซึ่งมุ่งเน้นการเผาขยะในหน่วยงานของตนเองเป็นหลัก ยังไม่สามารถให้บริการเผาขยะต่อหน่วยงานภายนอกได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเตาเผาขยะติดเชื้อของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ สามารถเดินเครื่องได้อย่างเต็มที่ จากนั้นจะให้บริการกับชุมชนรายรอบต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรชัยกล่าว

 

ข่าวและภาพโดยนายธีรพงศ์ หนูปลอด ส่วนประชาสัมพันธ์