Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

ม.วลัยลักษณ์จัดประชุมนานาชาติ ICPSA 2017 สร้างเครือข่าย ต่อยอดงานวิจัยทางด้านพลาสมาสู่นวัตกรรม

อัพเดท : 11/10/2560

1287

สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ “10th International conference on plasma science and application (ICPSA) 2017” ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2560 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนงานวิจัย วิชาการระหว่างคณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษาทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งต่อยอดงานวิจัยสู่การสร้างนวัตกรรม โดยมีนักวิจัยจาก 10ประเทศอาเซียน รวมถึงประเทศออสเตรเลีย จีน อินเดีย เกาหลี แคนาดา และสวิสเซอร์แลนด์ เข้าร่วมประมาณ 100 คน



โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ รักษาการแทนอธิการบดีม.วลัยลักษณ์ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมก่อนพิธีเปิดการประชุม หลังจากนั้น รองศาสตราจารย์ ดร.สุรินทร์ ไหมศรีกรด รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม และมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หมุดตอเล็บ หนิสอ หัวหน้าศูนย์วิจัยความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมฟิสิกส์ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมเกษตร ม.วลัยลักษณ์ในฐานะประธานการจัดประชุม กล่าวรายงาน



ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หมุดตอเล็บ หนิสอ กล่าวว่า การประชุม ICPSA เป็นการจัดประชุมประจำปีของสมาคมพลาสมาอาเซียนแอฟริกัน จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ในปีนี้ม.วลัยลักษณ์ ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญในการรวบรวมนักวิจัยทางด้านพลาสมาและการประยุกต์มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้แก่นักศึกษา นักวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางด้านงานวิจัยทางด้านพลาสมา นำไปสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ การพัฒนาต่อยอดงานวิจัยไปสู่การสร้างนวัตกรรม พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนางานวิจัยที่เข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ตอบสนองความต้องการของสังคมอย่างแท้จริง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หมุดตอเล็บ กล่าวถึงหัวข้อในการประชุมว่า ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก คือ 1) กลุ่มพลาสมาฟิวชั่นและพลาสมาโฟกัส เน้นการวิจัยพลาสมาพลังงานสูง มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดแหล่งพลังงานทดแทนในอนาคตที่เราเรียกว่านิวเคลียร์ฟิวชั่น 2) กลุ่มของพลาสมาเย็นเน้นการประยุกต์ใช้พลาสมาเป็นเทคโนโลยีในการรักษาทางการแพทย์โดยที่ไม่ต้องใช้ยาการประยุกต์ทางการเกษตรเช่น การปรับปรุงพันธุ์พืช การฆ่าเชื้อโดยไม่ใช้ความร้อน รวมถึงการประยุกต์พลาสมาเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น แก้ปัญหาอากาศเสีย น้ำเสีย การใช้พลาสมาทำลายขยะพิษ ขยะติดเชื้อ เป็นต้น และในกลุ่มที่ 3) เป็นการกลุ่มวิจัยทางด้านพลาสมาพื้นฐาน ศึกษาคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของพลาสมา ว่ามีคุณสมบัติทางฟิสิกส์อย่างไร ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้นำไปต่อยอดได้มากขึ้นในอนาคต



ทั้งนี้ใน 3 กลุ่มหัวข้อวิจัยมีงานวิจัยมาร่วมนำเสนอบทความวิจัยกว่า 70 บทความ และได้รับเกียรติจาก Prof.Lee Sing Institute for Plasma Focus Studies, Australia ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “From Beam-target Fusion to Thermonuclear Fusion in the Plasma Focus Pinch และ Dr.Chanchai Chutsirimongkol, PhotoBioCare Co., Ltd., Thailand ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ " Low temperature atmospheric plasma technology developement for medical application in Thailand



“ในอนาคตหากนักวิจัยสามารถวิจัยทางด้านฟิวชันได้สำเร็จ เราก็จะสามารถสร้างพลังงานจากน้ำได้และมีแหล่งพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด และจะเป็นแหล่งพลังงานทดแทนพลังงานน้ำมัน ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ต้องมีการวิจัยระยะยาว อาศัยความร่วมมืออีกมาก นอกจากนั้นเรายังสามารถนำพลาสมามาประยุกต์ในทางการแพทย์ การเกษตรและสิ่งแวดล้อม อาทิ การปรับปรุงคุณภาพของดิน ปรับปรุงคุณภาพของน้ำแทนยาฆ่าแมลง การปรับปรุงสร้างพันธุ์ใหม่ในระยะเวลาที่เร็วขึ้นที่ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุกรรม(GMO) การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม การทำฟิล์มบาง การเคลือบผิวโลหะให้แข็ง ซึ่งปัจจุบันศูนย์ความเป็นเลิศฯม.วลัยลักษณ์ มีการวิจัยเรื่องเกษตรอยู่แล้ว และกำลังเริ่มต้นวิจัยการพัฒนาทางด้านฟิวชั่น และจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับเครือข่ายวิจัยด้านฟิวชั่นของประเทศไทย ร่วมมือกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ การประชุมในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือที่สำคัญ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หมุดตอเล็บ กล่าว

ประมวลภาพ

ข่าว/ภาพโดยนายธีรพงศ์ หนูปลอด ส่วนสื่อสารองค์กร