Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

ม.วลัยลักษณ์ร่วมกับจ.นครศรีฯ แถลงจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติครั้งที่ 3

06/06/2562

1407



มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์แถลงข่าวจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ ครั้งที่ 3 ดึงจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเจ้าภาพร่วม มุ่งเสริมสร้างบรรยากาศความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัยพร้อมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของ จ.นครศรีฯ ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก มีนักศึกษาจาก 58 ประเทศ 5 ทวีป 491 มหาวิทยาลัยสนใจสมัครเข้าร่วม

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมด้วย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะผู้แทนนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันภาษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ ร่วมแถลงข่าวการจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน – 1 กรกฏาคม 2562 มุ่งเสริมสร้างบรรยากาศความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัยฯ สร้างทูตทางวัฒนธรรมพร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดฯและของประเทศไทย โดยมีแขกผู้เกียรติจากภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนแขนงต่างๆ รวม 50 คน เข้าร่วม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพมหานคร



ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีเป้าหมายในการก้าวสู่ความเป็นนานาชาติ โดยเริ่มจากปฏิรูปการเรียนการสอน โดยนำมาตรฐาน UKPSF (UNITED KINGDOM PROFESSIONAL STANDARDS FRAMEWORK) มาใช้ การให้ความสำคัญกับการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษของนักศึกษา มีการจัดตั้ง “สถาบันภาษา” เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสากลให้แก่นักศึกษา สนับสนุนให้นักศึกษาปฏิบัติงานสหกิจศึกษาในต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมสู่สากล โดยตั้งแต่ปี 2560 มหาวิทยาลัยฯ ริเริ่มจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติและได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี และในปี 2562 มหาวิทยาลัยฯ ได้รับความร่วมมือจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเจ้าภาพร่วมจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติครั้งที่ 3 โดยมีเยาวชนผู้เข้าร่วมค่าย 200 คน แบ่งเป็นเยาวชนไทย 70 คน และ เยาวชนต่างชาติ 130 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนต่างชาติได้มารู้จักวัฒนธรรมไทย อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาติ และเป็นทูตวัฒนธรรมที่ช่วยในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่สากลต่อไป ขณะเดียวกันเยาวชนไทยที่เข้าร่วมโครงการมีโอกาสสร้างเครือข่ายกับเยาวชนต่างชาติจากนานาประเทศทั่วโลกและเพิ่มพูนประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริงด้วย



นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี กล่าวว่า นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในภาคใต้ ประมาณ 1.55 ล้านคนและมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ ค่ายวัฒนธรรมนานาชาติเป็น 1 ในความร่วมมือระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราชและมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเมืองรองให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็น 1 ใน 55 จังหวัดเมืองรองของประเทศไทย

“จังหวัดนครศรีธรรมราชขอขอบคุณมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ที่ได้ริเริ่มโครงการค่ายฯ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 และมีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดฯ เช่น วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร, หมู่บ้านคีรีวง และ ทะเลสิชลและขนอม ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ใน 74 ประเทศ และ 5 ทวีปทั่วโลก และทางจังหวัดฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติประจำปี 2562 และพร้อมที่จะสนับสนุนและร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฯ ในมิติต่างๆ ต่อไป” นายขจรเกียรติ กล่าว



ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศธร เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวถึงรายละเอียดในการจัดค่ายวัฒนธรรมนานาชาติครั้งนี้ว่าได้รับความสนใจจากเยาวชนสมัครเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 1,130 คน จาก 491 มหาวิทยาลัย จาก 58 ประเทศ และ 5 ทวีปทั่วโลก และมีการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดจำนวน 200 คน เข้าร่วมค่ายเป็นระยะเวลา 8 วัน โดยในระหว่างวันที่ 24 - 28 มิถุนายน 2562 ซึ่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และจังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีการแสดงวัฒนธรรมประจำชาติจากเยาวชนทุกชาติจำนวน 26 ชุด และเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะมีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ คือ มวยไทย รำไทย และ ดนตรีไทย ตลอดจนการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราช เยี่ยมชมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และเยี่ยมชมหมู่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา และชายหาดทรายขาวน้ำทะเลฟ้าใส อ.สิชล รวมถึงการเดินทางโดยรถไฟไปยังกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย

ส่วนวันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฏาคม 2562 ที่กรุงเทพมหานคร เยาวชนจะมีโอกาสเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รวมถึงการชมการแสดงโขน ซึ่งอนุเคราะห์จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม และในพิธีปิดค่ายฯ เยาวชนจะร่วมกันแสดงชุด “Cultures without Borders” ซึ่งจะเป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของแต่ละชาติเข้าด้วยกัน “วัตถุประสงค์สำคัญประการหนึ่ง ของการจัดโครงการค่ายฯ คือ การพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองโลก ผู้ยอมรับในความแตกต่างทางวัฒนธรรม สีผิว และ ความเชื่อ ของพลเมืองแต่ละประเทศ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสังคมโลกให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โอกาสนี้ขอขอบคุณจังหวัดนครศรีธรรมราชรวมถึงองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สํานักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช กระทรวงวัฒนธรรม การรถไฟแห่งประเทศไทย หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย ธนาคารออมสิน บริษัท ฉัตรทวีกิจคอร์เปอเรชั่น จํากัด และ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนโครงการเป็นอย่างดี” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศธร กล่าวในตอนท้าย









ประมวลภาพ



ข่าวโดยนายธีรพงศ์ หนูปลอด ส่วนสื่อสารองค์กร

ภาพโดยนางสาวชลธิชา ปานแก้ว ส่วนสื่อสารองค์กรและ นางสาวสุเมตตา อุราโรจน์ หน่วยประสานงาน กทม.