ข่าวเด่น

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เดินหน้าปฏิรูปการเรียนการสอน ตามกรอบมาตรฐาน UKPSF จากสหราชอาณาจักร มุ่งสร้างอาจารย์ผู้สอนมืออาชีพทั้งระบบ 100 % ปัจจุบันมีจำนวนอาจารย์ผ่านการรับรองการสอนภายใต้กรอบ UKPSF 279 คน สูงที่สุดในประเทศไทย 

รองศาสตราจารย์ ดร.สุรินทร์ ไหมศรีกรด รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและพัฒนาการเรียนการสอน ม.วลัยลักษณ์ (มวล.) เปิดเผยว่า มวล.ภายใต้การนำของ ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีคนปัจจุบัน มุ่งมั่นปฏิรูปการเรียนการสอน มุ่งไปสู่มหาวิทยาลัยแห่งคุณภาพ โดยได้นำกรอบมาตรฐานการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา UKPSF (The UK Professional Standards Framework) จาก Advance HE ประเทศอังกฤษมาใช้ สำหรับการเรียนการสอนทั้งระบบ 100% อาจารย์ผู้สอนทุกคนต้องผ่านการอบรมตามกรอบ UKPSF เพื่อเป็นอาจารย์ผู้สอนมืออาชีพโดยเน้นการสร้างความใกล้ชิดระหว่างนักศึกษากับอาจารย์  ส่งเสริมให้อาจารย์มีการติดตามผลการเรียนของนักศึกษาอย่างใกล้ชิด นักศึกษามีทักษะในการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำ ซึ่งมหาวิทยาลัยได้จัดอบรม UKPSF ให้แก่คณาจารย์ไปแล้ว จำนวน 4 รุ่น รุ่นละ 60 คน รวม 240 คน พร้อมทั้งมีการจัดอบรม Pre UKPSF คู่ขนานกันไปอีก 8 รุ่น จำนวนกว่า 500 คน

“ปัจจุบันคณาจารย์ของ มวล. ได้รับประกาศนียบัตรรับรองการเป็นผู้สอนมืออาชีพหรือ Fellowship แล้วจำนวน 279 คน (ณ วันที่ 2 ก.พ. 2564)  คิดเป็น 72.92% ของอาจารย์มวล.ทั้งหมด แบ่งเป็นระดับ Principal Fellow จำนวน 1 คน ระดับ Senior Fellow จำนวน 46 คน และระดับ Fellow จำนวน 232 คน ถือเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในประเทศไทย ส่งผลให้ภาพรวมของประเทศไทยมีจำนวน Fellowship เป็นอันดับที่ 6 ของโลกไม่นับรวมสหราชอาณาจักรอีกด้วย”  รองศาสตราจารย์ ดร.สุรินทร์ กล่าว

รองศาสตราจารย์ ดร.สุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า นโยบายปฏิรูปการเรียนการสอน ขณะนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ หลังจากใช้ระบบ UKPSF พบว่า ในปีการศึกษา 2561 คะแนนประเมินอาจารย์ของ ม.วลัยลักษณ์จากนักศึกษา เฉลี่ยอยู่ที่ 4.38 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 และมีคณาจารย์ที่ได้ 4 คะแนนหรือมากกว่า ร้อยละ 93  และในปีการศึกษา 2562 คะแนนประเมินเฉลี่ยอยู่ที่ 4.46  และมีคณาจารย์ที่ได้ 4 คะแนนหรือมากกว่า ถึงร้อยละ 96 

นอกจากนี้ระบบUKPSF ยังส่งผลต่อผลการเรียนของนักศึกษาที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยผลสำรวจเกรดเฉลี่ยของนักศึกษา พบว่า ปีการศึกษา 2561 นักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.50  มีจำนวนร้อยละ 7  ส่วนปีการศึกษา 2562  มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13 , เกรดเฉลี่ยระหว่าง 3.00-3.50  ปีการศึกษา 2561  มีจำนวนร้อยละ 22  ปีการศึกษา 2562  เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35 ,  เกรดเฉลี่ยระหว่าง 2.50-3.00 ปีการศึกษา 2561มีจำนวนร้อยละ 30  ปีการศึกษา 2562  มีจำนวนร้อยละ 32   , เกรดเฉลี่ยระหว่าง 2.00-2.50  ปีการศึกษา 2561   มีจำนวนร้อยละ 28  ส่วนปีการศึกษา 2562  มีจำนวนร้อยละ 14  ,เกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 2.00 ปีการศึกษา 2561   มีจำนวนร้อยละ 10  ส่วนปีการศึกษา 2562  ลดลงเหลือร้อยละ 4 เท่านั้น

ข่าวโดยนายธีรพงศ์  หนูปลอด ส่วนสื่อสารองค์กร