Location

0 7567 3000

ข่าวสมัครงาน

ประกาศรับสมัครพนักงานสายวิชาการ ตำแหน่งอาจารย์ หลักสูตรเภสัชศาสตร์ สังกัดสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ จำนวน 11 อัตรา

อัพเดท : 18/06/2563

2109

ด้วยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีความประสงค์รับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลทั่วไปเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานสายวิชาการ ตำแหน่งอาจารย์ หลักสูตรเภสัชศาสตร์ สังกัดสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ จำนวน 11 อัตรา ทำหน้าที่สอน วิจัย พัฒนางานด้านวิชาการ และบริการวิชาการ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. คุณสมบัติทั่วไป
        1.1  ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 11 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2561
        1.2 เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่เน้นการวิจัย
        1.3 คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 2.75 ระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าไม่ต่ำกว่า 3.50 กรณีหลักสูตรพิเศษที่มีปีการศึกษาเทียบเท่าระดับปริญญาโทหรือปริญญาตรีหลักสูตร 6 ปี เช่น หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต และเภสัชศาสตรบัณฑิต ไม่ต่ำกว่า 3.25
        1.4 มีผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ คือ TOEFL (Paper-Based) ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน หรือผลสอบอื่นที่เทียบเท่า ซึ่งมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจนถึงวันสมัคร ดังนี้
CEFR B2/ WU-TEP 84/ IELTS 6.5/ TOEFL IBT (Internet-Based Test) 80/ TOEFL PBT (Paper-Based Test) 550/ TOEFL ITP (Institutional Testing Program) 550/ TOEIC 686/ TOEFL CBT (Computer-Based Test) 213/ CU-TEP 100
กรณีผู้สมัครที่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL (Paper-Based) ต่ำกว่า 550 คะแนน แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 500 คะแนน มหาวิทยาลัยอนุโลมให้เข้ารับการคัดเลือกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้ และเมื่อได้รับการคัดเลือกจะต้องทำสัญญาจ้างโดยมีเงื่อนไข ดังนี้
              1) ต้องลงเรียนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะผ่านตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
              2) ต้องส่งผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ TOEFL (Paper-based) ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน ภายในระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย

สำหรับผู้สมัครที่มีคุณลักษณะต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ
          1) ตำแหน่งงานที่มหาวิทยาลัยจ้างงานประเภทลูกจ้างชั่วคราว
          2) ชาวต่างชาติเจ้าของภาษาที่ได้รับการคัดเลือกและให้บรรจุเป็นอาจารย์สอนภาษานั้น ๆ 
          3) อาจารย์กลุ่มภาษาตะวันออก (ยกเว้นภาษาไทย))  
          4) ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสารหรือศึกษาในหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
          5) ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสื่อสารหรือศึกษาในหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ  
          6) ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกหลักสูตรนานาชาติในประเทศ  จะต้องผ่านเกณฑ์ผลการสอบภาษาอังกฤษในการเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอกหรือสอบเพื่อสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนน TOEFL (Paper-based) ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน หรือผลสอบอื่นที่เทียบเท่า 
          7) ผู้ที่มีตำแหน่งทางวิชาการ (ผศ. รศ. และศ.)


        1.5 ผู้สมัครที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจะต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี ยกเว้นผู้ที่มีตำแหน่งทางวิชาการ (ผศ. รศ. ศ.) และบุคคลที่ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือดำรงตำแหน่งประเภทอื่น ๆ  ที่มีชื่อเรียกอย่างอื่นซึ่งมีระดับเทียบได้ไม่ต่ำกว่าระดับชำนาญการขึ้นไปจากสถาบันอุดมศึกษาภายในประเทศหรือต่างประเทศ  หรือจากหน่วยงานราชการหรือองค์การของรัฐ  (กรณีผู้สมัครที่มีอายุเกิน 30 ปี หากหน่วยงานมีเหตุผลและความจำเป็นให้เสนออธิการบดีพิจารณาเป็นกรณีไป)
        1.6 กรณีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน World University Ranking  แต่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามข้อ 1.3 ให้เป็นอำนาจของอธิการบดีที่จะพิจารณาอนุมัติเป็นรายกรณี

หมายเหตุ : ผู้สมัครที่ไม่มีผลสอบภาษาอังกฤษหรือมีแต่ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด หรือมีเกรดเฉลี่ยสะสมต่ำกว่าที่กำหนด หรือผู้มีวุฒิปริญญาโทแต่อายุเกิน 30 ปี  สามารถสมัครได้ โดยสำนักวิชาอาจเสนอจ้างเป็นอาจารย์สัญญาจ้าง 1 ปี โดยพิจารณาเป็นรายกรณี ๆ ไป

2. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
(อาจารย์ประจำสำนักวิชา/อาจารย์ประจำแหล่งฝึก) จำนวน 11 อัตรา
         2.1 อาจารย์ สังกัดสำนักวิชาเภสัชศาสตร์
               -  สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท/เอก สาขาเภสัชกรรมคลินิก/ สาขาเภสัชศาสตร์สังคมและการบริหาร /สาขาเภสัชอุตสาหการ /สาขาเภสัชเวท /สาขาเภสัชเคมี
               - หรือสำเร็จการศึกษาวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัด
               - หรือสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี 6 ปี สาขาบริบาลเภสัชกรรม เทียบเท่าปริญญาโท)
               - มีใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
               - คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 2.75 ระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าไม่ต่ำกว่า 3.50 กรณีหลักสูตรพิเศษที่มีปีการศึกษาเทียบเท่าระดับปริญญาโทหรือปริญญาตรีหลักสูตร 6 ปี เช่น หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต และเภสัชศาสตรบัณฑิต ไม่ต่ำกว่า 3.25
               - มีผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ คือ TOEFL (Paper-Based) ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน หรือผลสอบอื่นที่เทียบเท่าซึ่งมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจนถึงวันที่สมัครดังนี้ CEFR B2/ WU-TEP 84/ IELTS 6.5/ TOEFL IBT (Internet-Based Test) 80/ TOEFL PBT (Paper-Based Test) 550/TOEFL ITP (Institutional Testing Program) 550/ TOEIC 686/ TOEFL CBT (Computer-Based Test) 213/ CU-TEP 100
กรณีผู้สมัครที่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL (Paper-Based) ต่ำกว่า 550 คะแนน แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 500 คะแนน มหาวิทยาลัยอนุโลมให้เข้ารับการคัดเลือกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้ และเมื่อได้รับการคัดเลือกจะต้องทำสัญญาจ้างโดยมีเงื่อนไขดังนี้
                  1) ต้องลงเรียนภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะผ่านตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
                  2) ต้องส่งผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ TOEFL (Paper-Based) ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน ภายในระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย

         2.2 อาจารย์ประจำแหล่งฝึก สังกัดสำนักวิชาเภสัชศาสตร์
                - สำเร็จการศึกษาเภสัชศาสตรบัณฑิต และมีประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่งเภสัชกร ไม่น้อยกว่า 1 ปี ในหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงพยาบาล ร้านยา โรงงานผลิตยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ
                - หรือสำเร็จการศึกษาวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สาขาเภสัชบำบัด
                - หรือสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี 6 ปี เทียบเท่าปริญญาโท
                - มีใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
                -.มีผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ คือ TOEFL (Paper-Based) หรือผลสอบอื่นที่เทียบเท่า ซึ่งมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจนถึงวันสมัคร

3. คุณสมบัติอื่น ๆ
        3.1 ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
                         -  มีประสบการณ์การสอนในระดับมหาวิทยาลัยหรือในสถาบันอุดมศึกษาและหรือวิจัยในสาขาวิชาที่กำหนด
                        -  มีตำแหน่งทางวิชาการหรือมีผลงานทางวิชาการ
        3.2 เป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติงานประจำเต็มเวลาได้
        3.3 เป็นผู้ใฝ่รู้และมีความตั้งใจจริงในการทำงาน รวมทั้งต้องสามารถทุ่มเทและอุทิศตนให้กับการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย
        3.4 เป็นผู้ที่มีความเข้าใจและยอมรับเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพการทำงานและเงื่อนไขต่าง ๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด

4. อัตราเงินเดือน   
       4.1 วุฒิปริญญาเอก  อัตราเงินเดือนเริ่มต้น 40,000 บาท
       4.2 วุฒิปริญญาโท   อัตราเงินเดือนเริ่มต้น 28,000 บาท
       ทั้งนี้อัตราเงินเดือนที่จะได้รับมหาวิทยาลัยจะพิจารณาตามคุณวุฒิการศึกษา ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด

5.  สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูล
       สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลที่พนักงานมีสิทธิ์ได้รับตามระเบียบประกาศข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ในแต่ละกรณีมีดังต่อไปนี้
       (1) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
       (2) ค่ารักษาพยาบาล
       (3) การตรวจสุขภาพประจำปี
       (4) ประกันภัยอุบัติเหตุ
       (5) ค่าเล่าเรียนบุตร
       (6) เงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรศึกษาในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
       (7) เครื่องราชอิสริยาภรณ์
       (8) รถรับ – ส่ง
       (9) ที่พักบุคลากร/เงินช่วยเหลือค่าที่พัก
       (10) เครื่องแบบพนักงานและเงินช่วยเหลือค่าเครื่องแบบ
       (11) เงินยืมเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์
       (12) เงินกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์พนักงาน
       (13) เงินช่วยเหลือชดใช้ทุนและหรือเบี้ยปรับ
       (14) ค่าทำขวัญและค่าทำศพ
       (15) เงินชดเชย
       (16) ฌาปนกิจสงเคราะห์ (ช.พ.ค. – ช.พ.ส.)
       (17) สโมสรวลัยลักษณ์
       (18) สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
       (19) ศูนย์กีฬาและสุขภาพ
       (20) กองทุนเงินทดแทนและประกันสังคม 

6. เอกสารและหลักฐานการสมัคร
        6.1 ใบสมัครที่กรอกข้อความสมบูรณ์แล้ว  พร้อมติดรูปถ่ายหน้าตรง  ไม่สวมหมวกและไม่ใส่แว่นตาสีดำ
ขนาด 1 นิ้ว  ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน  จำนวน 1 รูป
        6.2 สำเนาใบปริญญาบัตรหรือประกาศนียบัตร  และสำเนาใบแสดงผลการเรียน  (Transcript of records)
ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป  จำนวนอย่างละ 1 ฉบับ
        6.3 สำเนาผลทดสอบภาษาอังกฤษ  จำนวน 1 ฉบับ
        6.4 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการหรือหนังสือสำคัญประจำตัว  จำนวน 1 ฉบับ
        6.5 สำเนาทะเบียนบ้าน  จำนวน 1 ฉบับ
        6.6 สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น  ใบทะเบียนสมรส  ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล  เป็นต้น  จำนวน 1 ฉบับ
        6.7 ผู้สมัครที่ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้วจะต้องมีหลักฐานผ่านการเกณฑ์ทหาร  จำนวน 1 ฉบับ
        ผู้สมัครต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องในสำเนาเอกสารทุกฉบับ   หากปรากฏภายหลังว่าผู้สมัครรายใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ในประกาศรับสมัครแล้วให้ถือว่าผู้สมัครรายนั้นขาดคุณสมบัติในการสมัครและไม่มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือกหรือบรรจุเป็นพนักงาน

7. การสมัคร
    ผู้ประสงค์จะสมัครสอบคัดเลือกเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย สามารถขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครได้
    ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ)  ได้ที่
        (1)  หน่วยประสานงานมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กรุงเทพมหานคร
               อาคารเอสเอ็ม ทาวเวอร์ ชั้น 19   เลขที่ 979/44-46 (ตรงข้าม ททบ.5 สนามเป้า)
               ถนนพหลโยธิน  แขวงสามเสนใน  เขตพญาไท  กรุงเทพฯ   10400
               โทร. 0-2298-0244-5  โทรสาร 0-2298-0248    
        (2)  ส่วนทรัพยากรมนุษย์และองค์กร  สำนักงานอธิการบดี  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  จังหวัดนครศรีธรรมราช
               222  ตำบลไทยบุรี  อำเภอท่าศาลา  จังหวัดนครศรีธรรมราช   80160
               โทร. 0-7567-3745   โทรสาร 0-7567-3708
       หรือกรณีที่ผู้สมัครไม่สะดวกที่จะมาขอรับใบสมัครหรือมาสมัครด้วยตนเอง  สามารถสมัครทางไปรษณีย์ได้โดย download  ใบสมัครพนักงานสายวิชาการได้ที่ ใบสมัคร

       แล้วส่งใบสมัครพร้อมหลักฐานการสมัครไปที่  อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  222  ตำบลไทยบุรี   อำเภอท่าศาลา  จังหวัดนครศรีธรรมราช  80160  วงเล็บมุมซองว่าสมัครอาจารย์


8. การดำเนินการคัดเลือก
    มหาวิทยาลัยจะดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามขั้นตอนดังนี้
        8.1 ขั้นตอนที่ 1  พิจารณาประเมินคุณวุฒิการศึกษา  ผลการศึกษา  ประสบการณ์  ผลงานทางวิชาการ และสาขาวิชาของผู้สมัครให้ตรงกับลักษณะงานวิชาการของตำแหน่งที่จะบรรจุ   
        8.2 ขั้นตอนที่ 2
              (1)  เมื่อผู้สมัครผ่านขั้นตอนที่ 1 แล้ว กำหนดให้ผู้สมัครนำเสนอผลงานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ในเวลา 10 นาที  เพื่อพิจารณาประเมินความสามารถในการนำเสนอ การถ่ายทอดความรู้ ความสามารถด้านวิชาการ และศักยภาพในการเป็นนักวิชาการที่ดี  ในกรณีที่ผู้สมัครมีประสบการณ์และผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ชัด อาจพิจารณายกเว้นไม่ต้องนำเสนอผลงานวิจัยหรือวิชาการดังกล่าวได้โดยจะพิจารณาเฉพาะกรณีไป
              (2)  ดำเนินการสัมภาษณ์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น  ทัศนคติ ความสนใจทางวิชาการ  ความตั้งใจจริง  การแสดงออก  มนุษยสัมพันธ์  และบุคลิกภาพอื่น ๆ  เป็นต้น

9. การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ กำหนดการสอบ และการประกาศผลการคัดเลือก 
              (1) มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ที่จะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของมหาวิทยาลัยเป็นคราว ๆ ไป ตามจำนวนและระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยเห็นสมควร  โดยจะทำการประกาศรายชื่อ      ผู้มีสิทธิ์สอบ  กำหนดการสอบ  และผลการคัดเลือกผ่านทางเว็บไซต์ และประกาศของมหาวิทยาลัย
              (2) มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ที่พิจารณาประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบหรือเชิญผู้สมัครมาสอบคัดเลือกหรือไม่ก็ได้ตามความเหมาะสม

10. เงื่อนไขอื่น ๆ
       10.1 ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับการเรียกตัวเข้าปฏิบัติงานแต่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ทันทีในเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ในคราวนั้น
       10.2 ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกและขึ้นบัญชี “สำรอง” ไว้ มหาวิทยาลัยจะเรียกตัวต่อเมื่อได้เรียกตัวผู้ผ่านการคัดเลือก “ตัวจริง” แล้วตามลำดับ   และหรือมหาวิทยาลัยอาจจะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม
       10.3 มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครได้ตามความเหมาะสม
       10.4 มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกและตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการสมัครอื่น ๆ ในภายหลังตามความเหมาะสมได้
       10.5 การปลอมแปลงหลักฐานและเอกสารการสมัครอาจมีความผิดตามกฎหมาย  มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์
ที่จะไม่พิจารณาให้เข้ารับการสอบคัดเลือกหรือบรรจุเป็นพนักงาน
       10.6 ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งหรือได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานและลูกจ้างของมหาวิทยาลัยจะต้องตรวจสุขภาพร่างกายและตรวจทางจิตวิทยา และจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากสถาบันการแพทย์ของรัฐหรือที่รัฐรับรอง โดยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่างเองและส่งใบรับรองแพทย์ตามกำหนดระยะเวลาดังนี้
               (1) การตรวจสุขภาพสำหรับโรคที่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 6 แห่งประกาศมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เรื่องโรคที่มีลักษณะต้องห้ามเป็นพนักงานและลูกจ้างของมหาวิทยาลัย การตรวจสุขภาพร่างกายและการตรวจทางจิตวิทยา พ.ศ.2562 ยกเว้นข้อ 6(6) ให้ส่งใบรับรองแพทย์ให้มหาวิทยาลัยภายในกำหนดระยะเวลาตามหนังสือที่มหาวิทยาลัยแจ้งให้มารายงานตัวเพื่อปฏิบัติงาน
               (2) การตรวจประเมินโรคทางจิตเวช ให้ส่งใบรับรองแพทย์ภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งหรือได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของมหาวิทยาลัย
 

 

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://hro.wu.ac.th/