Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

อธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ ร่วมต้อนรับ รมว.ยุติธรรม ในงาน"กิจกรรมสัญจรพืชกระท่อม จังหวัดนครศรีธรรมราช”

อัพเดท : 04/04/2565

931

พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน

            ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) นำคณะผู้บริหารและบุคลากร ร่วมให้การต้อนรับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยุติธรรม) ในโอกาสเดินทางมาเยือน มวล. เพื่อเป็นประธานเปิดงาน “พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน” ครั้งที่ 2 จัดโดยกระทรวงยุติธรรมและสำนักงาน ป.ป.วส. โดยมีนายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เดินทางร่วมกิจกรรม โดยมีนายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา มวล. หัวหน้าส่วนราชการและประชาชนเข้าร่วม ณ หอประชุมใหญ่ อาคารไทยบุรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565   ที่ผ่านมา

          โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีกล่าวในโอกาสร่วมต้อนรับครั้งนี้ ว่า มวล.โชคดีมากที่ได้มีโอกาสต้อนรับคณะท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในการเป็นประธานเปิดงาน“พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน”ในครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าขณะที่พืชกระท่อมยังเป็นพืชเสพติดอยู่นั้น ถือเป็นเรื่องขัดใจพี่น้องประชาชนมายาวนาน เนื่องจากกระท่อมเป็นพืชที่คนไทยนิยมและใช้กันมายาวนานตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย และถือเป็นโชคดีในฐานะที่ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีที่มีความมุ่งมั่น แน่วแน่ที่จะปลดล๊อคและทำให้พืชชนิดนี้ถูกกฏหมายและกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน การปลดล็อกนี้จะเป็นคุณุปการที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนไทย ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มีประโยชน์ต่อวิถีชีวิต สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมวล.ในฐานะสถาบันการศึกษา เรามีศูนย์ความเป็นเลิศและมีคณาจารย์ที่ทำวิจัยเกี่ยวกับ “กระท่อม กัญชา กัญชง” เพื่อศึกษาสรรพคุณและประสิทธิภาพ และเชื่อว่าในอนาคต มวล.จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาพืชกระท่อมให้เป็นพืชที่สร้างเศรษฐกิจไทย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆต่อไป

          ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การปลดล็อกพืชกระท่อมมีความยากลำบากที่ต้องใช้เวลาในการปรับแก้กฎหมาย และจะไม่ประสบความสำเร็จหากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกฝ่าย จนเวลานี้กระท่อมสามารถนำมาซื้อ-ขาย และนำมาใช้กินตามวิถีชาวบ้านได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ตนเองเป็น ส.ส. มาเป็นเวลานานได้ใกล้ชิดประชาชน และรู้ถึงความเดือดร้อน จึงเริ่มเดินหน้าและได้ศึกษาเรื่องพืชกระท่อม โดยเจตนารมย์ในการปลดล็อกพืชกระท่อมนั้น เนื่องจากเห็นว่าชาวบ้านบริโภคกันมาตลอดแต่ผิดกฎหมาย มีชาวบ้านที่ลักลอบใช้และถูกจับกุมดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก จึงได้ปลดล็อกนำคนออกจากคุกไม่ดำเนินคดีได้หลายพันคน จากเดิมที่มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระท่อมประมาณ 150,000 คน มีหมู่บ้านนำร่องที่เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ 157 หมู่บ้าน แต่วันนี้คนที่เกี่ยวข้องและใช้กระท่อมน่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า และการสัญจรล่องใต้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณหมู่บ้านทดลองที่เป็นส่วนสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในการปลดล็อคที่รอมานานถึง 78 ปี

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงที่เจอวิกฤติโควิด-19 เศรษฐกิจติดขัด แต่พืชกระท่อมกลับเป็นพืชตัวใหม่ที่ทำเงินได้มหาศาล จากการคำนวณคร่าวๆ หากปลูก 1 ไร่ ประมาณ 25 ต้น เก็บใบได้ประมาณ 5,400 กิโลกรัม/ปี ราคาขายวันนี้กิโลกรัมละ 300-500 บาท จะมีรายได้ 2.7 ล้านบาท/ปี ซึ่งขณะนี้มีคนปลูกกระท่อมประมาณ 40,000 ไร่ ดังนั้น จะมีรายได้จากใบกระท่อมมากถึง 108,000 ล้านบาท/ปี จะเห็นได้ว่าจากวันที่ปลดล็อคพืชกระท่อม วันที่ 24 สิงหาคม 2564 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 5-6 เดือน สามารถเปลี่ยนใบไม้ที่ผิดกฎหมายเป็นเงินได้ถึงแสนล้านบาท ส่วนในสเต็ปต่อไป จะต้องต่อยอดในการทำตลาดเพื่อส่งออกต่างประเทศด้วย

          ทั้งนี้ “งานกิจกรรมสัญจรพืชกระท่อม จังหวัดนครศรีธรรมราช" ในครั้งนี้จัดขึ้นภายใตแนวคิด “พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน” โดยกระทรวงยุติธรรมและสำนักงาน ป.ป.ส. จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ภายในงานช่วงเช้าเป็นกิจกรรมประมูลขายทอดตลาดทรัพย์สินในคดียาเสพติด ประเภทโมเดล จำนวน 200 รายการ ส่วนในช่วงบ่ายชมนิทรรศการให้ความรู้และผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อม การเสวนาพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย โดย อาจารย์ ดร.สกันท์ วารินหอมหวล อาจารย์ประจำสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มวล.นางสิริน ชีพชัยอิสสระ นักวิชาการและที่ปรึกษาเศรษฐกิจสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคมหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราชและนายปิยะพร รอดศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 อ.ถ้ำพรรณราย จ.นครศรีธรรมราชและชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง "วงมาลีฮวนน่า"

พืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืนพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืนพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืนพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืนพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืนพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน

ข่าวและภาพ โดย น.ส.ชลธิชา ปานแก้ว ส่วนสื่อสารองค์กร