ด้วยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีความประสงค์รับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลทั่วไปเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานสายวิชาการ ตำแหน่งอาจารย์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก สำนักวิชาแพทยศาสตร์ จำนวน 22 อัตรา คือ
1. ศัลยศาสตร์จำนวน 2 อัตรา
2. สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา จำนวน4 อัตรา
3. กุมารเวชศาสตร์จำนวน 3 อัตรา
4. ออร์โธปิดิกส์จำนวน 2 อัตรา
5. เวชศาสตร์ฉุกเฉินจำนวน 2 อัตรา
6. จิตเวชศาสตร์จำนวน 1 อัตรา
7. วิสัญญีวิทยาจำนวน 1 อัตรา
8. เวชศาสตร์ครอบครัวจำนวน 3 อัตรา
9. โสต ศอ นาสิกวิทยาจำนวน 1 อัตรา
10. เวชศาสตร์ฟื้นฟูจำนวน 1 อัตรา
11. พยาธิวิทยาจำนวน 1 อัตรา
12. เวชศาสตร์ป้องกันจำนวน 1 อัตรา
โดยทำหน้าที่สอน วิจัย พัฒนางานด้านวิชาการ และบริการวิชาการ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1.คุณสมบัติทั่วไป
ข้อ 1 คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นพนักงานสายวิชาการ ตามประกาศฯ เรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นพนักงานสายวิชาการของมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 2) ฉบับลงวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2564
1.1 เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่เน้นการวิจัย (ทำวิทยานิพนธ์) จากสถาบันอุดมศึกษาภายใน ประเทศหรือต่างประเทศที่มหาวิทยาลัยรับรอง
1.2 คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับปริญญา ดังนี้
- ระดับปริญญาตรี ไม่ต่ำกว่า 2.75
- ระดับปริญญาโท หรือ เทียบเท่า ไม่ต่ำกว่า 3.50
- กรณีหลักสูตรพิเศษที่มีปีการศึกษาเทียบเท่าระดับปริญญาโทหรือ ปริญญาตรีหลักสูตร 6 ปี เช่น หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต และเภสัชศาสตรบัณฑิต ไม่ต่ำกว่า 3.25
1.3 มีผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ คือ TOEFL (Paper-based) ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน หรือผลสอบอื่นที่เทียบเท่า ซึ่งมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสมัคร ผลสอบอื่นที่เทียบเท่าคะแนนสอบภาษาอังกฤษ ดังนTOEFL (Paper) 550 คะแนน มีดังนี้
CEFR B2 เทียบเท่า IELTS 6.5 / IELTS 6.5/TOEIC 686/ TOEFL IBT (Internet-Based Test) 80/ TOEFL PBT (Paper-Based Test) 550/ TOEFL ITP (Institutional Testing Program) 550/ TOEFL CBT (Computer-Based Test) 213/WU-TEP 84/ CU-TEP 100
กรณีผู้สมัครที่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL (Paper-Based) ตามข้อ 1.3 ต่ำกว่า 550 คะแนน แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 500 คะแนน มหาวิทยาลัยอนุโลมให้เข้ารับการคัดเลือกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้ และเมื่อได้รับการคัดเลือกจะต้องทำสัญญาจ้างโดยมีเงื่อนไขดังนี้
(1) ให้รายงานผลการทดสอบภาษาอังกฤษทุก 4 เดือน และส่งผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ TOEFL(Paper-based) ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน ภายในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
(2) กรณีไม่เป็นไปตามข้อ 1.3 (2) ให้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย โดยถือว่าขาดคุณสมบัติของการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตั้งแต่ต้น เว้นแต่สำนักวิชามีเหตุผลและความจำเป็นและได้รับอนุมัติจากอธิการบดีให้ขยายระยะเวลาการส่งผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ให้ขยายระยะเวลาได้ไม่เกิน 1 ปี
สำหรับผู้สมัครที่มีคุณลักษณะต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ
(1) ตำแหน่งอาจารย์สัญญาจ้างตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ว่าด้วยการจ้างอาจารย์สัญญาจ้างปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย
(2) ชาวต่างชาติเจ้าของภาษาที่ได้รับการคัดเลือกและให้บรรจุเป็นอาจารย์สอนภาษานั้นๆเนื่องจากมหาวิทยาลัยจ้างเป็นสัญญาจ้าง
(3) อาจารย์กลุ่มภาษาตะวันออก (ยกเว้นภาษาไทย))
(4) ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือปริญญาเอกจากต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในหลักสูตรการเรียนการสอน
(5) ผู้ที่มีตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ หรือศาสตราจารย์
1.4 คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งและอื่นๆตามที่หน่วยงานกำหนด
ข้อ 2 อาจารย์สัญญาจ้างของมหาวิทยาลัยซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์หรือผู้ที่มีตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์จากสถาบันอุดมศึกษาอื่น ที่จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นพนักงานสายวิชาการมีเงือนไขดังนี้
(1) ต้องมีผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษคือ TOEFL (Paper-based) ไม่ต่ำกว่า 500 คะแนนหรือผลสอบอื่นที่เทียบเท่าซึ่งมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันสมัคร
(2) ต้องได้คะแนนการประเมินผลการเรียนการสอนโดยนักศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่มหาวิทยาลัยกำหนด เฉลี่ยทุกรายวิชาไม่ต่ำกว่า 4.25 สำหรับผู้ที่มีตำแหน่งทางวิชาการจากสถาบันอุดมศึกษาอื่นต้องได้คะแนนการประเมินผลการเรียนการสอนตามหลักเกณฑ์และวิธีการของสถาบันอุดมศึกษานั้นๆเฉลี่ยทุกรายวิชา ไม่ต่ำกว่า 4.25
ข้อ 3 ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามประกาศนี้ให้อธิการบดีเป็นผู้วินิจฉัยคำวินิจฉัยของอธิการบดีถือเป็นที่สุด
2. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
2.1 กรณีสมัครเป็นอาจารย์แพทย์ต้นสังกัดเพื่อเข้าศึกษาฝึกอบรมรมแพทย์ประจำบ้าน
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตจากสถาบันที่แพทยสภารับรอง
- มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา
2.2 กรณีสมัครเป็นอาจารย์แพทย์
- สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตในสถาบันที่แพทยสภารับรอง และสำเร็จการศึกษา/ผ่านการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน (แพทย์เฉพาะทาง) ในสาขาดังต่อไปนี้ คือ
ศัลยศาสตร์
สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
กุมารเวชศาสตร์
ออร์โธปิดิกส์
เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
จิตเวชศาสตร์
วิสัญญีวิทยา
เวชศาสตร์ครอบครัว
โสต ศอ นาสิกวิทยา
เวชศาสตร์ฟื้นฟู
พยาธิวิทยา
เวชศาสตร์ป้องกัน
- มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และหนังสือแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาเวชกรรม
3. คุณสมบัติอื่น ๆ
3.1 มีความรู้ความสามารถตรงสายงานที่สมัครเป็นอย่างดี และมีความเข้าใจในปรัชญา ปณิธาน และภารกิจของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์อย่างแท้จริง
3.2 เป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติงานประจำเต็มเวลาได้
3.3 เป็นผู้ใฝ่รู้และมีความตั้งใจจริงในการทำงาน รวมทั้งต้องสามารถทุ่มเทและอุทิศตนให้กับการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย
3.4 เป็นผู้ที่มีความเข้าใจและยอมรับเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพการทำงานและเงื่อนไขต่างๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
4. อัตราเงินเดือน
4.1 วุฒิปริญญาเอก อัตราเงินเดือนเริ่มต้น 40,000 บาท
4.2 วุฒิปริญญาเอก อัตราเงินเดือนเริ่มต้น 28,000 บาท
4.3 ค่าตอบแทนวิชาชีพแพทย์
กลุ่มที่ 1 แพทย์ที่ยังไม่มีวุฒิบัตร (วว.) หรือหนังสืออนุมัติ (อว.)แสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม (15,000บาท)
กลุ่มที่ 2 แพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตร (วว.)หรือหนังสืออนุมัติ (อว.) แสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสาขาต่างๆนอกเหนือจากกลุ่มที่ 3 (24,000 บาท)
กลุ่มที่ 3 แพทย์ที่ได้รับวุฒิบัตร (วว.)หรือหนังสืออนุมัติ (อว.) แสดงความรู้ความชำนาฯในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสาขาหนึ่งสาขาใด (29,000 บาท) ดังนี้
1) สาขาพยาธิวิทยาทั่วไป
2) สาขาพยาธิวิทยากายวิภาค
3) สาขาพยาธิวิทยาคลินิก
4) สาขานิติเวชศาสตร์
5) สาขาจิตเวชศาสตร์
6) สาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น
7) สาขาประสาทศัลยศาสตร์
8) สาขาศลัยศาสตร์ทรวงอก
9) สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน(แขวงระบาดวิทยา)
10) ระดับอนุสาขาที่แพทย์ได้รับการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านในปีสุดท้ายหรือได้รับวุฒิบัตร(วว.) หรือหนังสืออนุมัติ (อว.)แสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในอนุสาขาของสาขาที่กำหนดเป้นสาขาหลักอยู่แล้ว
11) สาขาวิชาหรืออนุสาขานอกเหนือจาก 1)-10) ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารงานบุคคลพิจารณาอนุมัติ
ทั้งนี้อัตราเงินเดือนและค่าตอบแทนอื่นๆที่จะได้รับมหาวิทยาลัยจะพิจารณาตามคุณวุฒิการศึกษา ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
5. สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูล
สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลที่พนักงานมีสิทธิ์ได้รับตามระเบียบประกาศข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ในแต่ละกรณีมีดังต่อไปนี้
(1) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
(2) ค่ารักษาพยาบาล
(3) การตรวจสุขภาพประจำปี
(4) ประกันภัยอุบัติเหตุ
(5) ค่าเล่าเรียนบุตร
(6) เงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรศึกษาในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
(7) เครื่องราชอิสริยาภรณ์
(8) รถรับ – ส่ง
(9) ที่พักบุคลากร/เงินช่วยเหลือค่าที่พัก
(10) เครื่องแบบพนักงานและเงินช่วยเหลือค่าเครื่องแบบ
(11) เงินยืมเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์
(12) เงินกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์พนักงาน
(13) เงินช่วยเหลือชดใช้ทุนและหรือเบี้ยปรับ
(14) ค่าทำขวัญและค่าทำศพ
(15) เงินชดเชย
(16) ฌาปนกิจสงเคราะห์ (ช.พ.ค. – ช.พ.ส.)
(17) สโมสรวลัยลักษณ์
(18) สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
(19) ศูนย์กีฬาและสุขภาพ
(20) กองทุนเงินทดแทนและประกันสังคม
6. เอกสารและหลักฐานการสมัคร
6.1 ใบสมัครที่กรอกข้อความสมบูรณ์แล้ว พร้อมติดรูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวกและไม่ใส่แว่นตาสีดำขนาด 1 นิ้ว ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 1 รูป
6.2 สำเนาใบปริญญาบัตรหรือประกาศนียบัตร และสำเนาใบแสดงผลการเรียน (Transcript of records) ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป จำนวนอย่างละ 1ฉบับ
6.3 สำเนาผลทดสอบภาษาอังกฤษ จำนวน 1 ฉบับ
6.4 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการหรือหนังสือสำคัญประจำตัว จำนวน 1 ฉบับ
6.5 สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
6.6 สำเนาหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบทะเบียนสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล เป็นต้น จำนวน 1 ฉบับ
6.7 ผู้สมัครที่ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้วจะต้องมีหลักฐานผ่านการเกณฑ์ทหาร จำนวน 1 ฉบับ
6.8 ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา
6.9 หนังสืออนุมัติ/วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพกรรมของแพทยสภา (กรณีสำเร็จการศึกษา/ฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทาง)
6.10 หนังสือรับรองจากอาจารย์ (กรณีสมัครอาจารย์แพทย์ต้นสังกัดเพื่อเข้าศึกษาฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน) ตามแบบฟอร์ม https://drive.google.com/file/d/1--O7qMSuy_5ML2ZjZ5aH51kzyMyDTz8Y/view?usp=sharing
6.11 ผลการสอบเพื่อประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ขั้นตอนที่ 1-3 (กรณีสมัครอาจารย์แพทย์ต้นสังกัดเพื่อเข้าศึกษาฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน)
ผู้สมัครต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องในสำเนาเอกสารทุกฉบับ หากปรากฏภายหลังว่าผู้สมัครรายใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ในประกาศรับสมัครแล้วให้ถือว่าผู้สมัครรายนั้นขาดคุณสมบัติในการสมัครและไม่มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือกหรือบรรจุเป็นพนักงาน
7. การสมัคร
ผู้ประสงค์จะสมัครสอบคัดเลือกเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย สามารถขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครได้
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ) ได้ที่
(1) หน่วยประสานงานมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กรุงเทพมหานคร
อาคารเอสเอ็ม ทาวเวอร์ ชั้น 19 เลขที่ 979/44-46 (ตรงข้าม ททบ.5 สนามเป้า)
ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร. 0-2298-0244-5 โทรสาร 0-2298-0248
(2) ส่วนทรัพยากรมนุษย์และองค์กร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
222 ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160
โทร. 0-7567-3745 โทรสาร 0-7567-3708
หรือกรณีที่ผู้สมัครไม่สะดวกที่จะมาขอรับใบสมัครหรือมาสมัครด้วยตนเอง สามารถสมัครทางไปรษณีย์ได้
โดย download ใบสมัครพนักงานสายวิชาการได้ที่
https://hro.wu.ac.th/wp-content/uploads/2019/04/1.Renew-Application-Form-WU.pdf
แล้วส่งใบสมัครพร้อมหลักฐานการสมัครไปที่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 222 ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160 วงเล็บมุมซองว่าสมัครอาจารย์
8. การดำเนินการคัดเลือก
มหาวิทยาลัยจะดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามขั้นตอนดังนี้
8.1 ขั้นตอนที่ 1 พิจารณาประเมินคุณวุฒิการศึกษา ผลการศึกษา ประสบการณ์ ผลงานทางวิชาการ และสาขาวิชาของผู้สมัครให้ตรงกับลักษณะงานวิชาการของตำแหน่งที่จะบรรจุ
8.2 ขั้นตอนที่ 2
(1) เมื่อผู้สมัครผ่านขั้นตอนที่ 1 แล้ว กำหนดให้ผู้สมัครนำเสนอผลงานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ในเวลา 10 นาที เพื่อพิจารณาประเมินความสามารถในการนำเสนอ การถ่ายทอดความรู้ ความสามารถด้านวิชาการ และศักยภาพในการเป็นนักวิชาการที่ดี ในกรณีที่ผู้สมัครมีประสบการณ์และผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ชัด อาจพิจารณายกเว้นไม่ต้องนำเสนอผลงานวิจัยหรือวิชาการดังกล่าวได้โดยจะพิจารณาเฉพาะกรณีไป
(2) ดำเนินการสัมภาษณ์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น ทัศนคติ ความสนใจทางวิชาการ ความตั้งใจจริง การแสดงออก มนุษยสัมพันธ์ และบุคลิกภาพอื่น ๆ เป็นต้น
9. การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ กำหนดการสอบ และการประกาศผลการคัดเลือก
(1) มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ที่จะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของมหาวิทยาลัยเป็นคราว ๆ ไป ตามจำนวนและระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยเห็นสมควร โดยจะทำการประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิ์สอบ กำหนดการสอบ และผลการคัดเลือกผ่านทางเว็บไซต์ และประกาศของมหาวิทยาลัย
(2) มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ที่พิจารณาประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบหรือเชิญผู้สมัครมาสอบคัดเลือกหรือไม่ก็ได้ตามความเหมาะสม
10. เงื่อนไขอื่น ๆ
10.1 ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับการเรียกตัวเข้าปฏิบัติงานแต่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ทันทีในเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ในคราวนั้น
10.2 ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกและขึ้นบัญชี “สำรอง” ไว้ มหาวิทยาลัยจะเรียกตัวต่อเมื่อได้เรียกตัวผู้ผ่านการคัดเลือก “ตัวจริง” แล้วตามลำดับ และหรือมหาวิทยาลัยอาจจะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม
10.3 มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครได้ตามความเหมาะสม
10.4 มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกและตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการสมัครอื่น ๆ ในภายหลังตามความเหมาะสมได้
10.5 การปลอมแปลงหลักฐานและเอกสารการสมัครอาจมีความผิดตามกฎหมาย มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่พิจารณาให้เข้ารับการสอบคัดเลือกหรือบรรจุเป็นพนักงาน
10.6 ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งหรือได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานและลูกจ้างของมหาวิทยาลัยจะต้องตรวจสุขภาพร่างกายและตรวจทางจิตวิทยา และจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากสถาบันการแพทย์ของรัฐหรือที่รัฐรับรอง โดยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่างเองและส่งใบรับรองแพทย์ตามกำหนดระยะเวลาดังนี้
(1) การตรวจสุขภาพสำหรับโรคที่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 6 แห่งประกาศมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เรื่องโรคที่มีลักษณะต้องห้ามเป็นพนักงานและลูกจ้างของมหาวิทยาลัย การตรวจสุขภาพร่างกายและการตรวจทางจิตวิทยา พ.ศ.2562 ยกเว้นข้อ 6(6) ให้ส่งใบรับรองแพทย์ให้มหาวิทยาลัยภายในกำหนดระยะเวลาตามหนังสือที่มหาวิทยาลัยแจ้งให้มารายงานตัวเพื่อปฏิบัติงาน
(2) การตรวจประเมินโรคทางจิตเวช ให้ส่งใบรับรองแพทย์ภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งหรือได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของมหาวิทยาลัย