Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

ม.วลัยลักษณ์ จับมือ กระทรวงวัฒนธรรมและวิทยาลัยนาฏศิลป์ MOU ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม พร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนศิลปะและวัฒนธรรมระดับท้องถิ่น ระดับชาติและนานาชาติ

อัพเดท : 14/07/2566

1614

ม.วลัยลักษณ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง เพื่อกำหนดนโยบายและทิศทางในการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม สร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และนานาชาติ และเพื่อให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์กลาง (Cultural Hub) ในการขับเคลื่อนศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้

     วันนี้ (13 ก.ค.66) มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการกีฬา จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมระหว่าง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง โดยมีศาสตราจารย์ ดร. สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับนายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายศิวพงศ์ กั้งสกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช ผู้ช่วยศาสตราจารย์กิตติชัย รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง โดยมี นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มาริสา ภูมิภาค ณ หนองคาย รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการกีฬา  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ลงนามเป็นพยาน ณ ห้องประชุมหัวตะพาน ชั้น 3 อาคาร A ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
 

 

     โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวว่า อีกหนึ่งพันธกิจที่สำคัญของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ คือ การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งมหาวิทยาลัยมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลาง หรือ Cultural HUB ในการขับเคลื่อนงานด้านทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ผ่านการศึกษาวิจัยจากอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญ การสร้างความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคดิจิทัล โดยมหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่โบราณสถานตุมปัง โดยมุ่งหวังว่าอาคารแห่งนี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิต  มีการเก็บรวบรวมองค์ความรู้ นำไปสู่การสร้างคุณค่า พัฒนาให้เกิดการสร้างมูลค่า ก่อให้เกิดการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

     นายโกวิท ผกามาศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีแนวคิดในการส่งเสริม สนับสนุน และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง เพื่อขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม การวิจัยและจัดการความรู้ด้านวัฒนธรรม การเผยแพร่องค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายทางวัฒนธรรม ศิลปินพื้นบ้าน ศิลปินท้องถิ่น ในการดำเนินงานทางวิชาการร่วมกับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยนาฏศิลป เพื่อถ่ายทอด แลกเปลี่ยนองค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม รวมไปถึงยังได้มีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์ สืบสาน และต่อยอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้ให้คงอยู่ 

 
     
     บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ระหว่างมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุงในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดนโยบายและทิศทางการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของชาติเพื่อการธำรงรักษา สืบสาน เผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมและมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมประจำถิ่น หรือการพัฒนา ต่อยอด และสร้างคุณค่าใหม่ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมืองานวิชาการศิลปะและวัฒนธรรม ในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติและเพื่อให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนงานศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้ โดยบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ มีกำหนดระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี

 

 


โดยแผนปฏิบัติการที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง จะดำเนินการทันที ประกอบด้วย 1) การขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมและมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่เป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 2) การจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในท้องถิ่นแต่ละภูมิภาค เพื่อขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ และนำไปสู่การขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเสนอต่อองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) 3) การสร้างการมีส่วนร่วมของนักศึกษา คณาจารย์ และชุมชนท้องถิ่น ในลักษณะเชิงพื้นที่ (Area Based) เพื่อต่อยอดสร้างสรรค์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่มกลับคืนสู่คนในชุมชน และ 4) การเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมไปถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับงานวัฒนธรรมและมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศต่อไป

 

 

 

ข่าวและภาพโดย ชลธิชา ลิมปิติ ส่วนสื่อสารองค์กร