Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

องคมนตรีเป็นประธานพิธีส่งมอบตึกสงฆ์อาพาธศรีธรรมราชาที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

อัพเดท : 20/04/2567

878

องคมนตรี เป็นประธานในพิธีส่งมอบตึกสงฆ์อาพาธศรีธรรมราชา ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2567

วันนี้ (20 เมษายน 2567) พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรีเป็นประธานในพิธีส่งมอบตึกสงฆ์อาพาธศรีธรรมราชา สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2567  โดยมี คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานกรรมการมูลนิธิศรีธรรมราชา เป็นผู้ส่งมอบให้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ วุฒิสุทธิเมธาวี​ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัย​ลักษณ์​ เป็นผู้รับมอบ

และมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษา อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกและปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ข้าราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และผู้ที่ได้ร่วมบริจาคเงินสร้างตึกสงฆ์อาพาธแห่งนี้ร่วมพิธี โดยมีพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะภาค ๑๖ (ธ) ,  หลวงตาสมหมาย อัตตมโน วัดป่าสันติกาวาส จ.อุดรธานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  ณ ตึกสงฆ์อาพาธศรีธรรมราชา ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช

สำหรับตึกสงฆ์อาพาธศรีธรรมราชา มูลนิธิศรีธรรมราชา ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ขึ้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563  หลังจากได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ใช้เวลาในการก่อสร้าง 4 ปี 2 เดือน แล้วเสร็จ ในเดือนมีนาคม 2567 โดยมีเตียงรองรับผู้ป่วยทั้งสิ้น 114 เตียง พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ครบถ้วน และนอกจากนั้นยังมีห้องเพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนา 1 ห้อง และห้องที่ใช้สำหรับการปฏิบัติธรรม 1 ห้อง และห้องประกอบศาสนพิธี 1 ห้อง รวมทั้งห้องธุรการและอำนวยการ

ตึกสงฆ์อาพาธศรีธรรมราชา เป็นอาคารรองรับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่เป็นพระภิกษุ สามเณร นักบวช หรือผู้นำศาสนา ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ในการก่อสร้างมีผู้ร่วมบริจาคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 142,538 ราย มียอดเงินบริจาคทั้งสิ้น  305,069 455.40 บาท ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ประชาชนให้ความศรัทธาร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก โดยได้ใช้เงินไปในการบริหารจัดการก่อสร้างจำนวน 288,373,531.05 บาท และมีเงินเหลือ 16,695,924.35 บาท เพื่อใช้เป็นกองทุนรักษาพระสงฆ์อาพาธต่อไป โดยกำหนดเปิดให้บริการ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป