ข่าวเด่น

ม.วลัยลักษณ์ ร่วมกับ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) โดย บริษัท นีโอ แฟคทอรี่ จำกัด ลงนามเอ็มโอยู พัฒนางานวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาศักยภาพกำลังคนร่วมกัน พร้อมต่อยอดงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และนางสาวณิชมน ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ บริษัท นีโอ แฟคทอรี่ จำกัด เพื่อการพัฒนางานวิจัย นวัตกรรม ศักยภาพกำลังคนระหว่างบริษัทฯ และมหาวิทยาลัย ร่วมกัน โดยมี คณะผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมกันเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมช่อประดู่ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ ม.วลัยลักษณ์

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวว่า มวล.ขับเคลื่อนพัฒนาการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้เกิดขึ้น รวมทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับประชาชน พร้อมยกระดับมาตรฐานของมหาวิทยาลัยให้มีชื่อเสียงในระดับสากล ขณะนี้ มวล.ได้รับการจัดอันดับจากสถาบัน Times Higher Education Rankings 2025 ให้อยู่ในอันดับที่ 1201+ ของโลก อันดับ 6 ของประเทศแล้ว ที่สำคัญมวล.ยังได้รับรางวัลดีเด่นด้านการวิจัยที่มีคุณภาพระดับสากลและสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติ จากกระทรวง อว. ตอกย้ำความพยายามอย่างจริงจังในการขับเคลื่อนงานวิจัยตลอด 7 ปีที่ผ่านมาและบ่งบอกว่าม.วลัยลักษณ์ประสบความสำเร็จค้นคว้าวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ด้วย

ซึ่งความร่วมมือกับนีโอในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาส ให้นักศึกษาและคณาจารย์ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเพื่อเสริมทักษะการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้สู่ระดับสากล และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างความร่วมมือเชื่อมโยงกันระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการนำองค์ความรู้เพื่อต่อยอดในภาคอุตสาหกรรม อย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน

ด้าน นางสาวณิชมน ถกลศรี กล่าวว่า นีโอ คอร์ปอเรท ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานวิจัยและเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนงานวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนั้น ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์และวัสดุภัณฑ์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและพัฒนากระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิธีการจัดการขยะ (Waste Management) ที่มีประสิทธิภาพ โดยนำวัสดุเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรหรืออุตสาหกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้ได้ประโยชน์สูงสุด พร้อมยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาและนักวิจัยได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงในภาคอุตสาหกรรม”

“ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของนีโอ ซึ่งตอกย้ำกลยุทธ์ ‘Innovation-led Premiumization’ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อขยายเซกเมนต์ใหม่ ๆ โดยเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่น้อยกว่า 100 SKUs ในแต่ละปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกช่วงวัยและทุกไลฟ์สไตล์ สู่เป้าหมายในการเป็น FMCG ที่ช่วยยกระดับการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นในทุกวันให้กับผู้บริโภค (Uplift the Essentials for Everyday Betterment) ควบคู่กับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับหลัก ESG เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวณิชมน ถกลศรี กล่าว