สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จัดกิจกรรมพิธีมอบเสื้อกาวน์แก่นักศึกษาแพทย์ จำนวน ๔๘ คน เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ หอประชุมใหญ่อาคารไทยบุรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
อาจารย์ ดร.นายแพทย์ปรัชญะพันธุ์ เพชรช่วย รองคณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลัก ๒ ประการ คือ ๑ การตระหนักในภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งนักศึกษา จะต้องตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลผู้ป่วยในระดับชั้นคลินิกแม้ยังไม่จบไปเป็นแพทย์ แต่การฝึกปฏิบัติในชั้นคลินิก นักศึกษาจะต้องฝึกให้ครบ ทั้ง ๓ องค์ประกอบหลัก คือ การดูแลผู้ป่วยทางด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ๒ การตระหนักในภาวะแห่งการดำรงตน ความมีคุณธรรม และจริยธรรม ในวิชาชีพ
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความหมายของเสื้อกาวน์ว่า มีความหมายใน ๓ นัย คือ เสื้อกาวน์มีหน้าที่ป้องกันสิ่งสกปรก เช่น เลือด น้ำหนอง เสมหะ เป็นต้น นั่นคือความพร้อมที่จะรับภาระในการดูแลผู้ป่วย กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อสวมเสื้อตัวนี้ สีขาว สีแห่งความสะอาด นั่นคือการดำรงตนให้มีคุณธรรม จริยธรรม จิตใจที่ใส่สะอาด ไม่มีอคติ ลำเอียง ไม่แยกชั้นวรรณะ เชื้อชาติศาสนา พร้อมดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ การจัดงานในครั้งนี้ ยังมุ่งหวังที่จะให้นักศึกษาได้เกิดความภาคภูมิใจในตนเองที่สามารถผ่านการเรียนไปสู่ระดับชั้นคลินิก และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง นักศึกษา คณาจารย์ ได้พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาสำนักวิชา กิจกรรมสำคัญในงานนี้ได้เรียนเชิญแพทย์ดีเด่นระดับชาตินายแพทย์สมชัย พงษ์ธัญญะวิริยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี แพทย์ดีเด่นในชนบท ปี ๒๕๕๒ กองทุนนายแพทย์กนกศักดิ์ พูลเกษร และศิษย์เก่าดีเด่นคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ปี ๒๕๕๗ มาบรรยายในหัวข้อ “การทำงานในชนบท ” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักศึกษาในการประกอบคุณงามความดีในวิชาชีพในโอกาสต่อไป
อาจารย์ ดร.นายแพทย์ปรัชญะพันธุ์ เพชรช่วย กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักวิชาแพทยศาสตร์ ได้ดำเนินการมาแล้ว ๖ รุ่น มีนักศึกษาแพทย์ที่จบเป็นบัณฑิตแล้วพร้อมจะรับใช้ชุมชน สังคม ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ นี้ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๔๗ คน และขณะนี้ได้รับนักศึกษารุ่นใหม่เป็นรุ่นที่ ๗ พร้อมเน้นย้ำ ว่าสำนักวิชาแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตบัณฑิตที่เพียบพร้อมทั้งคุณภาพ วิชาการ และคุณธรรมจริยธรรม เพื่อที่จะรับใช้ประชาชนในท้องถิ่น รวมถึงเตรียมความพร้อมที่จะให้บริการสำหรับศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อันใกล้นี้