Location

0 7567 3000

ข่าวเด่น

อธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ ย้ำคำมั่นสัญญา “เราจะดูแลบุตรหลานของท่านเหมือนบุตรหลานของเรา”

อัพเดท : 10/07/2563

3034

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จัดกิจกรรมอธิการบดีและผู้บริหารพบผู้ปกครอง ภายใต้ โครงการเสริมสร้างทักษะชีวิตในมหาวิทยาลัย ’วลัยลักษณ์ ประจำปีการศึกษา 2563 เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองได้มั่นใจในคุณภาพของมหาวิทยาลัยและมาตรการในการดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลากร ให้การต้อนรับผู้ปกครองในกิจกรรมอธิการบดีและผู้บริหารพบผู้ปกครอง เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยปีนี้มีผู้ปกครองนักศึกษาใหม่ เข้าร่วมกว่า 2,500 คน ณ หอประชุมใหญ่ อาคารไทยบุรี อาคารสถาปัตย์ฯและกลุ่มอาคารเรียนรวม ม.วลัยลักษณ์



ทั้งนี้ก่อนเริ่มกิจกรรม รองศาสตราจารย์ ดร.สุรินทร์ ไหมศรีกรด รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและพัฒนาการเรียนการสอน ให้เกียรติกล่าวแนะนำประวัตและผลงานที่ผ่านมาของอธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ ให้ผู้ปกครองได้รู้จัก
 

จากนั้น ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ กล่าวต้อนรับและให้ความเชื่อมั่นกับผู้ปกครอง ว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และคณะผู้บริหารทุกคนขอต้อนรับผู้ปกครองทุกท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง “พวกเราขอให้คำมั่นสัญญาว่า เมื่อท่านให้ความไว้วางใจส่งบุตรหลานของท่านมาศึกษาเล่าเรียนที่ ม.วลัยลักษณ์ เราจะดูแลบุตรหลานของท่านให้เหมือนกับบุตรหลานของเรา” ซึ่งปีนี้มีนักศึกษาใหม่เพิ่มมากขึ้น จำนวน 2,475 คน นับได้ว่ามากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัย ในขณะที่จำนวนนักศึกษาที่เข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศลดลงกว่า 50,000 คน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านักศึกษาและผู้ปกครองให้ความสนใจและเชื่อมั่นในคุณภาพของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เพิ่มมากขึ้น จากการทำงานอย่างหนักในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาของคณะผู้บริหารที่มุ่งมั่นพัฒนามหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้เป็นมหาวิทยาลัยคุณภาพ โดยมุ่งเป้าเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของโลก โดยได้สมัครเป็น 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยวิจัยคุณภาพของไทยเพื่อไปแข่งขันกับนานาชาติ

ม.วลัยลักษณ์ได้คำนึงถึงคุณภาพการศึกษา เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ สามารถทำงานได้ทั่วโลก มหาวิทยาลัยจึงได้ปฏิรูปการเรียนการสอน โดยการนำระบบมาตรฐานวิชาชีพเพื่อการสอนและการสนับสนุนการเรียนรู้ที่มีคุณภาพของประเทศอังกฤษ หรือ The UK Professional Standards Framework (UKPSF) มาใช้ เพื่อให้อาจารย์ของ ม.วลัยลักษณ์ทุกคน มีทักษะการสอนแบบมืออาชีพ ซึ่งในปีนี้ ม.วลัยลักษณ์เป็นแห่งเดียวในประเทศที่มีอาจารย์ที่ได้รับประกาศนียบัตรการสอนแบบมืออาชีพมากที่สุดในประเทศไทย จำนวน 167 คน และตั้งเป้าหมายไว้ 100% ในอนาคต ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้ปกครองได้มั่นใจว่า อาจารย์ทุกคนของม.วลัยลักษณ์เป็นผู้สอนมืออาชีพที่มีมาตรฐานโลกรองรับ และเป็นอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถที่จะสอนให้นักศึกษามีทักษะในการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ภายใต้บรรยากาศการเรียนรู้ที่อาจารย์ผู้สอนสามารถดูแลนักศึกษาได้อย่างใกล้ชิดในห้องเรียนอัจฉริยะ หรือ Smart Classroom และห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย การเรียนการสอนทุกวิชาที่เป็นภาษาอังกฤษอย่างน้อย 50% และการเรียนภาษาอังกฤษกับอาจารย์ชาวต่างชาติ ด้วยการปฏิรูปการเรียนการสอนทั้งหมดนี้ ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3.5-4.00 (เกียรตินิยมอันดับ1) เพิ่มมากขึ้นถึง 13%


ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกเหนือจากการพัฒนาด้านคุณภาพการศึกษา การปฏิรูปการเรียนการสอนแล้ว มหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับการดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด โดยมีระบบอาจารย์ที่ปรึกษาดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด มีโครงการติวเตอร์เซ็นเตอร์สำหรับดูแลผู้มีปัญหาด้านการเรียนแต่ละรายวิชา การจัดตั้ง“กลุ่มเพื่อนอาทรเพื่อน” เพื่อให้นักศึกษาได้ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาที่มีปัญหาด้านการเรียนหรือนักศึกษาตกออกลดลง เหลือเพียง 0.8% และในอนาคตมหาวิทยาลัยตั้งเป้าให้มีจำนวนนักศึกษาตกออกลดลงเป็น 0% อีกด้วย


นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังดูแลในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเพื่อให้นักศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยการปรับปรุงสนามกีฬาที่ได้มาตรฐาน และครบทุกชนิดกีฬา การปรับปรุงศูนย์อาหารช่อประดู่ให้สะอาด สวยงาม มีอาหารที่หลากหลาย รสชาติอร่อย มีรถไฟฟ้าให้บริการรับ-ส่งระหว่างอาคารเรียนและเดินทางภายในมหาวิทยาลัย การก่อสร้างหอพักนักศึกษาใหม่เพื่อรองรับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มมากขึ้น มีระบบดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การติดตั้งกล้อง CCTV โดยรอบมหาวิทยาลัย และที่สำคัญ คือมีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่จะสามารถเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2564 จำนวน 120 เตียง เพื่อให้บริการรักษาพยาบาลแก่นักศึกษาและประชาชนชาวนครศรีธรรมราชและภาคใต้ทั้งหมด โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ 490 เตียง ในปี 2565 และครบ 750 เตียงในอนาคต

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ม.วลัยลักษณ์มีปณิธานในการ“ผลิตบัณฑิตให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง”ด้วยหลักนิยม 4 ประการ คือ “กตัญญู รู้วินัย ใจอาสา พัฒนาภาวะผู้นำ” และทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะผู้บริหารที่จะทำให้ ม.วลัยลักษณ์เป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณภาพ เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยระดับแนวหน้าของโลก เพื่อให้นักศึกษา ศิษย์เก่าและชาวนครศรีธรรมราชได้ภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และในนามของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ขอขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ไว้วางใจส่งบุตรหลานของท่านมาเรียนที่นี่ ขอให้เชื่อมั่นว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จะดูแลบุตรหลานของท่านอย่างดีที่สุด

 
 

 



ด้านผู้ปกครองที่มาส่งนักศึกษาใหม่รายงานตัวเข้าหอพักและเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในด้านต่างๆ เช่น นางชูลีวรรณ อ่อนรักษ์ มารดาของ นางสาวพีรยา อ่อนรักษ์ (น้องยุ้ย) นักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 สำนักวิชาสหเวชศาสตร์ กล่าวถึงความรู้สึกว่า ได้ยินชื่อเสียงของ ม.วลัยลักษณ์มาจากรุ่นพี่ของลูกสาวที่ทำงานที่เดียวกันกับตน ทำให้ค่อนข้างมั่นใจใน ม.วลัยลักษณ์ว่าจะช่วยสอนให้ลูกมีความรู้ ความสามารถ นำไปใช้ในการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ในอนาคต การได้ฟังคำมั่นสัญญาจากผู้บริหารยิ่งทำให้มั่นใจและสบายใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวตนเองรู้สึกประทับใจใน ม.วลัยลักษณ์ตั้งแต่เข้ามา เพราะมีบรรยากาศที่ดี พื้นที่กว้างใหญ่และร่มรื่นเป็นอย่างมาก



นางอัษฎาพรและนายภิเดช สวัสดิ์ขวัญ ผู้ปกครองของ นายชญานนท์ สวัสดิ์ขวัญ (น้องนาย) นักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ กล่าวว่า ดีใจที่ลูกได้เข้ามหาวิทยาลัยวันแรก รู้สึกประทับใจการให้ความช่วยเหลือของรุ่นพี่ที่ช่วยดูแลขนย้ายข้าวของให้น้องตอนเข้าหอพัก ตนมีบุตรชายเพียงคนเดียวจึงตั้งความหวังให้ลูกเรียนจบ มีงานที่ดีทำ ซึ่งจากการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่มีความมั่นใจในม.วลัยลักษณ์มากขึ้น อีกทั้งตนเองเป็นคนในพื้นที่อำเภอท่าศาลา ได้เห็นมหาวิทยาลัยทำประโยชน์ให้สังคม ให้กับชาวท่าศาลามาโดยตลอด แม้บุตรชายจะมีตัวเลือกหลายมหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายก็ได้ตัดสินใจให้เรียนที่ ม.วลัยลักษณ์เพราะมีมหาวิทยาลัยคุณภาพอยู่ใกล้บ้าน ไม่จำเป็นต้องไปเรียนไกล และมั่นใจ ว่า ม.วลัยลักษณ์จะสามารถดูแลลูกเราให้จบการศึกษามีงาน มีอนาคตที่ดีได้


นางพรศรี พุ่มพัว ผู้ปกครอง นางสาวพลอยชมพู พุ่มพัว (น้องพลอยชมพู) นักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ กล่าวว่า ตนเองรู้จัก ม.วลัยลักษณ์จากการดูเว็บไซต์มาก่อนทำให้มั่นใจในคุณภาพ และองค์ความรู้ทางด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่ถือว่าอยู่ในระดับพรีเมี่ยม อีกทั้งมีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ที่ใกล้เปิดให้บริการ จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ทันสมัย เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักศึกษาแพทย์ พยาบาลได้ฝึกปฏิบัติจริงได้เลย ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมให้กับลูกในทุกด้าน ทั้งวิชาการและความเป็นอยู่ มีหอพักที่สะดวกสบายอยู่ในมาตรฐานดีมากเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ เนื่องจากตนเองจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯและมีบุตรชายคนโตที่ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือทำให้ค่อนข้างเห็นถึงความแตกต่างตรงนี้ รู้สึกประทับใจและสบายใจที่ฝากอนาคตของลูกไว้กับ ม.วลัยลักษณ์
 

ประมวลภาพ


ข่าวและภาพโดย นายธีรพงศ์ หนูปลอด ส่วนสื่อสารองค์กร