
รักษาการแทนอธิการบดีม.วลัยลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ปกครอง บุตรหลานจะได้เรียนกับคณาจารย์ที่มีคุณภาพ ภายใต้สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่ทันสมัยและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม “เราจะดูแลบุตรหลานของท่านเหมือนลูกหลานของเรา”
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย ให้การต้อนรับผู้ปกครองซึ่งเดินทางมาส่งบุตรหลานซึ่งเป็นนักศึกษาใหม่ประดู่ช่อที่ 25 รายงานตัวเข้าหอพักวันแรกของภาคการศึกษาที่ 1/2565 ในกิจกรรมอธิการบดีและผู้บริหารพบผู้ปกครอง โดยปีนี้มีผู้ปกครองเข้าร่วมกว่า 2,000 คน ณ หอประชุมใหญ่ อาคารไทยบุรี และกลุ่มอาคารเรียนรวม ม.วลัยลักษณ์
ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ของโรคโควิด19 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนออนไซต์ผสมออนไลน์ โดยมีนักศึกษามาเรียนออนไซต์ประมาณ 30% และในภาคการศึกษาที่ 1/2565 จะเปิดเรียนออนไซต์ 100 % ภายใต้มาตรการและกลไกการดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด โดยคณาจารย์และบุคลากรต้องได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 3 โดส ส่วนนักศึกษาไม่ต่ำกว่า 2 โดส และภายในห้องเรียนยังคงใส่หน้ากากอนามัย มีการคัดกรองและฆ่าเชื้อภายในห้องเรียนอยู่เป็นระยะๆ ทั้งนี้หากเกิดการเจ็บป่วยหรือติดโควิดมหาวิทยาลัยมีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯไว้รองรับ พร้อมดูแลรักษาเป็นอย่างดี ขอให้ผู้ปกครองไม่ต้องเป็นกังวลจนเกินไป แต่ขอให้นักศึกษาทุกคนอยู่ด้วยความประมาท ดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด
ในส่วนเรื่องของคุณภาพการศึกษา ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ กล่าวว่า ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีนโยบายในการปฏิรูปการเรียนการสอนมุ่งไปสู่มหาวิทยาลัยแห่งคุณภาพ โดยหลักสูตรที่มีสภาวิชาชีพดูแลเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ต้องมั่นใจว่านักศึกษาจะสามารถสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพได้ทุกคน ส่วนหลักสูตรที่ไม่มีสภาวิชาชีพรองรับ ต้องผ่านการสอบ exit exam เพื่อมั่นใจว่านักศึกษาจากม.วลัยลักษณ์เป็นบัณฑิตมีคุณภาพ
ทั้งนี้หากดูสถิติการรับนักศึกษาของม.วลัยลักษณ์ พบว่า ปีการศึกษา 2562 สามารถนักศึกษาได้ 1,748 คน เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.11 ปี 2563 รับได้ 2,475 คน เกรดเฉลี่ย 3.12 ปี 2564 รับได้ 3,104 คน เกรดเฉลี่ย 3.20 ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดที่มีการเปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในปีการศึกษา 2565 (เฉพาะ TCAS1 –TCAS3) มีนักเรียนยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อไปแล้ว จำนวน 3,870 คน เกรดเฉลี่ย 3.29 ซึ่งทุบสถิติได้อีกครั้ง แสดงถึงการแข่งขันและการให้ความสนใจของนักเรียนกลุ่มเด็กเก่ง ทั้งยังสะท้อนคุณภาพทางการศึกษาที่สูงขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ด้วย
ในส่วนของการพัฒนาคุณภาพของคณาจารย์ มหาวิทยาลัยได้นำระบบ UKPSF จากประเทศอังกฤษมาใช้สำหรับการเรียนการสอน ปัจจุบันอาจารย์ทุกคนผ่านการอบรมภายใต้กรอบUKPSF 100% และอาจารย์ได้รับประกาศนียบัตรรับรองการสอนภายใต้กรอบ UKPSF จำนวน 487 คน เป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีการพัฒนาสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในมหาวิทยาลัย อาทิ ห้องเรียนอัจฉริยะทันสมัย Smart Classroom จำนวน 150 ห้อง ห้องปฏิบัติการสมัยใหม่ Digital Laboratory มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง การปรับปรุงและสร้างอาคารเรียน หอพักนักศึกษา ปรับปรุงและสร้างสนามกีฬาต่างๆ ให้มีมาตรฐานสากล ที่สำคัญมหาวิทยาลัยยังพัฒนาสิ่งแวดล้อมต่างๆให้มีความสวยงาม อาทิ สวนไม้ประดับขนาด 255 ไร่ อุทยานพฤกษศาสตร์ที่มี สวนสมุนไพร ลานกางเต็นท์ ศูนย์ศึกษาพันธุ์สัตว์ป่า หอชมฟ้า โดมกระบองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ฯลฯ และที่สำคัญอาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยคอยดูแลเอาใจใส่นักศึกษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะทำให้นักศึกษาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในการเรียนที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
“ครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหน้าที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลบุตรหลานของท่านให้สำเร็จเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่า ผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลากรของเราทุกคน พร้อมจะดูแลบุตรหลานของท่านเหมือนลูกหลานของเรา ซึ่งเป้าหมายต่อไปของเราคือการก้าวไปสู่อันดับโลก เพื่อให้นักศึกษาและทุกคนได้ภาคภูมิใจ เมื่อสำเร็จการศึกษาไปแล้ว จะเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ที่มีชื่อติดอยู่ในอันดับโลก และในนามของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ขอขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ไว้วางใจส่งบุตรหลานของท่านมาเรียนที่นี่ ขอให้เชื่อมั่นว่า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จะดูแลบุตรหลานของท่านอย่างดีที่สุด”ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ กล่าว