ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุนครศรีธรรมราช มีมาตั้งแต่ราว พ.ศ.๑๗๗๓ สมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชเป็นเจ้าเมืองศรีธรรมราชมหานครหรือเมืองสิบสองนักษัตร(ศูนย์กลางการปกครองอยู่ในเขตพื้นที่บางอำเภอ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชปัจจุบัน)
ผ้าขึ้นธาตุหรือผ้าพระบฏ(ผ้าวาดรูปพระพุทธเจ้า) ผืนแรกเป็นผืนผ้ายาวมากคลื่นซัดมาติดฝั่งที่ชายทะเลปากพนัง ชาวปากพนังแห่อัญเชิญถวายพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ต่อมาจึงมีการแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันวิสาขบูชา ช่วงหลังเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับฤดูกาลที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของลูกหลานชาวเมืองสิบสองนักษัตร ตลอดจนพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งประเทศ จึงเลื่อนมาจัดประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ หรืออัญเชิญผ้าพระบฏขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันมาฆบูชา และเรียกขานกันว่า "ประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนครศรีธรรมราช" เรียกโดยทั่วไปว่า "แห่ผ้าขึ้นธาตุ" ซึ่งสื่อกันได้ดีในกลุ่มของพุทธศาสนิกชนชาวไทยว่า คือ การแห่ผ้าพระบฏขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช นั่นเอง ปัจจุบันมีผ้าพระบฏพระราชทาน ๕ ผืน
ปีนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดงาน ประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ มีสมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน ๕ ผืน ที่สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช และในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๐๐ น. พลเอกประสูตร รัศมีแพทย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุ หรือแห่ผ้าพระบฏนครศรีธรรมราช โดยมีผ้าพระบฏพระราชทานเป็นประธาน เริ่มจากสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ไปสู่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช(วัดพระบรมธาตุนครฯ)
จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และชาวไทยร่วมงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุนครศรีธรรมราช เพื่อความเป็นสืริมงคลที่จะเกิดขึ้นแก่ตนเเองและบุคคลที่รัก และสถานที่อยู่
ประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ | ที่นครศรีธรรมราชเมืองศาสน์ศิลป์ |
เป็นที่รู้คู่แดนไทยในธรณินทร์ | ระบัดระบิลทั่วไปในแหลมทอง |
ครั้งสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชประกาศเริ่ม | พุทธศาสนาแต้มเติมไล่หม่นหมอง |
หัวนโมผ้าพระบฏรดครรลอง | ไทยพี่น้องสุขสันต์มั่นในธรรม |
ถึงเวลาแห่ผ้าพระบฏแสนสดชื่น | ผ้ายาวผืนสดสีที่คมขำ |
ขาว เหลือง แดง แข่งงามเหลือความคำ | จะน้อมนำให้สมอารมณ์จริง |
ถ้ามีเวลา ๒๑-๒๒ กุมภา อย่าได้พลาด | ไปแห่ผ้าขึ้นพระธาตุฯ เถิดชายหญิง |
อานิสงส์แห่งบุญหนุนเนื่องอิง | เราคนไทยไม่ทอดทิ้งพุทธธรรม |
สืบพงศ์ ธรรมชาติ
พุธ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๙